เอกสารแจ้งการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลสำหรับแพทย์

บริษัท สมิติเวช จำกัด (มหาชน)

บริษัท สมิติเวช จำกัด (มหาชน) (“บริษัทฯ”) มุ่งมั่นที่จะคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในฐานะที่ท่านทำความตกลงกับบริษัทฯ ในการเข้ามาดำเนินการประกอบวิชาชีพเวชกรรมด้วยการตรวจรักษาผู้ป่วยในสถานพยาบาลโดยใช้เครื่องมือและอุปกรณ์ของโรงพยาบาลในลักษณะของการประกอบวิชาชีพอิสระ ซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะได้รับการคุ้มครองตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 บริษัทฯ ในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลมีหน้าที่ตามกฎหมายในการแจ้งเอกสารฉบับนี้ให้ท่านทราบถึงเหตุผลและวิธีการที่บริษัทฯ เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน รวมถึงแจ้งให้ท่านทราบสิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทฯ ยืนยันว่าได้ดำเนินการตามพระราชบัญญัติฉบับนี้เพื่อคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

1. คำนิยาม

“ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ

“ข้อมูลส่วนบุคคลที่อ่อนไหว” หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ (เช่น ข้อมูลภาพจำลองใบหน้า ข้อมูลจำลองม่านตา ข้อมูลจำลองลายนิ้วมือ) หรือข้อมูลอื่นใดที่กระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกันตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกำหนด

“ประมวลผล” หมายถึง เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย

“ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง บุคคลหรือนิติบุคคลที่มีอํานาจในการตัดสินใจเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

“ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งดำเนินการเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามคำสั่งหรือในนามของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งดำเนินการดังกล่าวไม่เป็นผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล

“กลุ่มบริษัทกรุงเทพดุสิตเวชการ” หมายถึง บริษัทที่อยู่ในเครือข่ายของบริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) ทั้งที่มีอยู่ในปัจจุบันและที่จะมีขึ้นในอนาคตไม่ว่าจะจดทะเบียนในประเทศไทยหรือในต่างประเทศ ซึ่งรวมถึงบริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) ด้วย

“กลุ่มบริษัทสมิติเวช” หมายถึง บริษัทที่อยู่ในเครือข่ายของบริษัท สมิติเวช จำกัด (มหาชน) ทั้งที่มีอยู่ในปัจจุบันและที่จะมีขึ้นในอนาคตไม่ว่าจะจดทะเบียนในประเทศไทยหรือในต่างประเทศ ซึ่งรวมถึงบริษัท สมิติเวช จำกัด (มหาชน) ด้วย

2. ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมจากท่าน

1. ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทฯ เก็บรวบรวม สามารถจำแนกเป็นประเภทดังต่อไปนี้

ประเภทข้อมูลส่วนบุคคลรายละเอียด
1. ข้อมูลระบุตัวตนเช่น ชื่อ-นามสกุล เลขที่บัตรประชาชน รูปถ่ายใบหน้า เพศ วันเดือนปีเกิด ชื่อ-นามสกุลของบุคคลอ้างอิง ชื่อ-นามสกุลของบุคคลในครอบครัว (เพื่อให้สิทธิประโยชน์)
2. ข้อมูลด้านการศึกษา/การงาน/วิชาชีพเช่น ประวัติการทำงาน ใบปริญญาบัตร ใบประกอบโรคศิลปะ ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรม ใบวุฒิบัตร
3. ข้อมูลสำหรับการติดต่อเช่น ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล ชื่อบุคคลที่ติดต่อยามฉุกเฉิน
4. ข้อมูลการเงินเช่น รายละเอียดบัญชีธนาคาร ข้อมูลเงินเดือน เอกสารเกี่ยวกับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เอกสารประกอบการยื่นแบบแสดงภาษีเงินได้
5. ข้อมูลการเข้าร่วมกิจกรรมเช่น ข้อมูลการลงทะเบียนเพื่อเข้าร่วมกิจกรรม การสัมมนา การจัดงานต่างๆ ของบริษัทฯ
6. ข้อมูลด้านสุขภาพเช่น ใบรับรองแพทย์ ผลตรวจสุขภาพประจำปี

2. บริษัทฯ จะไม่ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่อ่อนไหวของท่านโดยไม่ได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่านก่อน แต่บริษัทฯ อาจประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่อ่อนไหวของท่านโดยไม่ต้องขอความยินยอมในกรณีที่พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 อนุญาต เช่น ในกรณีที่มีความจำเป็นในการปฏิบัติตามกฎหมายด้านการคุ้มครองแรงงาน การให้สวัสดิการรักษาพยาบาล การประกันสังคม เพื่อประโยชน์ด้านสาธารณสุข หรือการคุ้มครองทางสังคมอื่นใดโดยบริษัทฯ จัดให้มีมาตรการที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองสิทธิขั้นพื้นฐานและประโยชน์ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

3. แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทฯ เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากแหล่งที่มาดังต่อไปนี้

1. ข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้โดยตรงจากท่าน ได้แก่ ใบสมัครงานที่ท่านส่งให้บริษัทฯ โดยการเข้ามาสมัครด้วยตนเองที่บริษัทฯ การสมัครผ่านเว็บไซต์ของบริษัทฯ หรือผ่าน Email

2. ข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับโดยทางอ้อม ได้แก่โรงพยาบาลและบริษัทในกลุ่มบริษัทสมิติเวช และกลุ่มบริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ ในกรณีที่ท่านได้เคยมีการสมัครงานไว้หรือเคยปฏิบัติหน้าที่ในกลุ่มบริษัทสมิติเวช และกลุ่มบริษัทกรุงเทพดุสิตเวชการ และท่านได้ให้ความยินยอมในการเปิดเผยข้อมูลไว้

4. วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทฯ ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายใต้ขอบเขตที่กำหนดไว้โดยพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 และเก็บรวบรวมข้อมูลเพียงเท่าที่จำเป็นสำหรับการดำเนินการดังกล่าว โดยบริษัทฯ ได้สรุปการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน พร้อมทั้งอธิบายฐานการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ชอบด้วยกฎหมาย (Lawful Basis of Processing) ดังนี้

วัตถุประสงค์ประเภทข้อมูลฐานการประมวลผลที่ชอบด้วยกฎหมาย
1.

ปฏิบัติตามสัญญาการประกอบวิชาชีพเวชกรรมด้วยการตรวจรักษาผู้ป่วยในสถานพยาบาลกับท่านซึ่งรวมถึง - การจ่ายเงินเดือน - การจ่ายค่าล่วงเวลา - การบันทึกเวลาเข้า-ออกการปฏิบัติงาน และเพื่อการประมวลผลเกี่ยวกับระบบรักษาความปลอดภัยของบริษัทฯ - การบันทึกวันลาและการจัดการสิทธิวันลา - แลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างบุคลากรของบริษัทฯ และแจ้งข้อมูลข่าวสารภายในบริษัทฯ

- ข้อมูลระบุตัวตน
- ข้อมูลด้านการศึกษา/การงาน/วิชาชีพ
- ข้อมูลสำหรับการติดต่อ
- ข้อมูลการเงิน
- ข้อมูลการเข้าร่วมกิจกรรม
เพื่อปฏิบัติตามสัญญาระหว่างบริษัทฯ กับท่าน (มาตรา 24 (3))
2.

ให้สวัสดิการและสิทธิประโยชน์กับท่าน เช่น การตรวจสุขภาพประจำปี และการให้สวัสดิการการรักษาของคู่สมรสและคนในครอบครัว

- ข้อมูลระบุตัวตน
- ข้อมูลสำหรับการติดต่อ
- ข้อมูลด้านสุขภาพ
1. เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ (Legitimate Interest) (มาตรา 24 (5))
2. สำหรับข้อมูลสุขภาพ บริษัทฯ จะขอความยินยอมจากท่านก่อนที่จะมีการเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลนั้น (มาตรา 26)
3.

จัดฝึกอบรมและการจัดกิจกรรมเพื่อพัฒนาความรู้ในการปฏิบัติงาน

- ข้อมูลระบุตัวตน
- ข้อมูลสำหรับการติดต่อ
- ข้อมูลการเข้าร่วมกิจกรรม
เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ (Legitimate Interest) ในการพัฒนาศักยภาพในการทำงานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของบริษัทฯ (มาตรา 24 (5))
4.

ประเมินการปฏิบัติงาน (Physician Performance Evaluation) จากข้อมูลสถิติการดูแลผู้ป่วย ตัวชี้วัดที่กำหนด รวมถึงรายงานการร้องเรียนที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติหน้าที่เพื่อประเมินประสิทธิภาพในการทำงาน

- ข้อมูลระบุตัวตน
- ข้อมูลสำหรับการติดต่อ
- ข้อมูลการเข้าร่วมกิจกรรม
เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ (Legitimate Interest) ในการบริหารจัดการองค์กร โดยไม่มีการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลในทางที่จะกระทบต่อสิทธิขั้นพื้นฐานในข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน (มาตรา 24(5))
5.

เก็บผลตรวจสุขภาพประจำปีเพื่อประเมินความสามารถในการทำงานในตำแหน่งงานที่ท่านได้รับมอบหมาย และเพื่อประโยชน์ในการจัดสวัสดิการด้านการรักษาพยาบาลที่เหมาะสมสำหรับพนักงาน โดยบริษัทฯ จะเก็บข้อมูลผลตรวจสุขภาพเป็นความลับ

- ข้อมูลด้านสุขภาพ
เมื่อได้รับความยินยอมจากท่าน (มาตรา 26)
6.

เพื่อใช้ข้อมูลชีวภาพในการระบุตัวตนของแพทย์/ทันตแพทย์สาหรับการเข้าปฏิบัติงานในพื้นที่ส่วนต่าง ๆ ของบริษัทฯ และเพื่อการประมวลผลเกี่ยวกับระบบรักษาความปลอดภัยของบริษัทฯ

ข้อมูลระบุตัวตน เช่น Finger Scan, Face Recognition
เมื่อได้รับความยินยอมจากท่าน (มาตรา 26)
7.

เพื่อการตรวจสอบประวัติ คุณสมบัติ หรือข้อมูลส่วนบุคคลของแพทย์/ทันตแพทย์ กับสถาบัน องค์กรหรือหน่วยงานใด ๆ ที่มีหน้าที่ในการควบคุมดูแลแพทย์/ทันตแพทย์หรือหน่วยงานใด ๆ ที่กฎหมายให้อำนาจ

ข้อมูลตามที่หน่วยงานที่กฎหมายให้อำนาจร้องขอได้
เพื่อปฏิบัติตามสัญญาระหว่างบริษัทฯ กับท่าน (มาตรา 24 (3))
8.

เพื่อการประมวลผลใดที่จำเป็นและเกี่ยวข้องกับการปฏิบัติหน้าที่ของแพทย์/ทันตแพทย์เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ในการปฏิบัติงานตามตำแหน่งหน้าที่ หรือเพื่อประเมินผลการปฏิบัติงาน

ข้อมูลเพื่อการประเมินผลการปฏิบัติงาน
เพื่อปฏิบัติตามสัญญาระหว่างบริษัทฯ กับท่าน (มาตรา 24 (3))
9.

เพื่อการประมวลผลใดที่จำเป็นและเกี่ยวข้องกับระบบการชำระเงิน ระบบคอมพิวเตอร์ การให้บริการด้านเทคโนโลยี หรือระบบใด ๆ ของบริษัทฯ ที่สำคัญต่อการปฏิบัติงานของบริษัทฯ และ/หรือแพทย์/ทันตแพทย์

- ข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อการปฏิบัติงานของแพทย์
- ข้อมูลด้านการศึกษา/การงาน/วิชาชีพ
- ข้อมูลสำหรับการติดต่อ
เพื่อปฏิบัติตามสัญญาระหว่างบริษัทฯ กับท่าน (มาตรา 24 (3))
10.

เพื่อการติดต่อสื่อสาร ไม่ว่าโดยช่องทางใด ๆ สำหรับการปฏิบัติ หน้าที่ของแพทย์/ทันตแพทย์ เพื่อการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างแพทย์/ทันตแพทย์แต่ละฝ่ายของบริษัทฯ และการแจ้งข้อมูลข่าวสารภายในบริษัทฯ รวมถึงการติดต่อประสานงานในโครงการที่แพทย์ รับเข้าร่วม เช่น การปรึกษาทางไกล (Teleconsultation)

- ข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อการปฏิบัติงานของแพทย์
- ข้อมูลด้านการศึกษา/การงาน/วิชาชีพ
- ข้อมูลสำหรับการติดต่อ
เพื่อปฏิบัติตามสัญญาระหว่างบริษัทฯ กับท่าน (มาตรา 24 (3))
11.

เพื่อการพัฒนาระบบการทำงานภายในบริษัทฯ ให้ดียิ่งขึ้นและเหมาะสมสอดคล้องตามที่กฎหมายและกฎระเบียบอนุญาต โดยการประมวลผลภายใต้ระบบสารสนเทศสำหรับการบริหารทรัพยากรบุคคลของบริษัทฯ ซึ่งอาจใช้ระบบร่วมกันหรือแบ่งปันข้อมูลดังกล่าวกับ บริษัทอื่นที่อยู่ในเครือข่ายของ บริษัท สมิติเวช จำกัด (มหาชน) ทั้งที่มีอยู่ในปัจจุบัน และที่จะมีขึ้นในอนาคต ซึ่งรวมถึงบริษัท สมิติเวช จำกัด (มหาชน) ด้วย

ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไปเพื่อการวางกลยุทธ์
เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ (Legitimate Interest) ในการพัฒนาศักยภาพการทำงานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของบริษัทฯ (มาตรา 24(5))
12.

เพื่อการปฏิบัติตามสัญญา เช่น สัญญาประกันวิชาชีพ สัญญาประกันอุบัติภัย เป็นต้น

ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไปเพื่อการเรียกร้องตามสัญญาประกันต่าง ๆ
เพื่อปฏิบัติตามสัญญาระหว่างบริษัทฯ กับท่าน (มาตรา 24 (3))
13.

เพื่อก่อตั้งสิทธิ ปฏิบัติตามกฎหมาย หรือใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมายของบริษัทฯ หรือแพทย์/ทันตแพทย์ เช่น การจัดทำรายงานรายได้ภาษี เป็นต้น

ข้อมูลการเงิน
เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมาย
14.

เพื่อสร้างสถิติแบบผลรวม โดยไม่ระบุตัวตนเกี่ยวกับแพทย์/ทันตแพทย์ของบริษัทฯ โดยบริษัทฯ สามารถวิเคราะห์และประมวลผลข้อมูลทางสถิติที่ไม่ระบุตัวตนนี้ และอาจแบ่งปันแก่บุคคลที่สามได้ เช่น ข้อมูลจำนวนแพทย์ สาขา ความพึงพอใจของแพทย์ ความผูกพันของแพทย์ที่มีต่อองค์กร เป็นต้น

ข้อมูลระบุตัวตน
เพื่อปฏิบัติตามสัญญาระหว่างบริษัทฯ กับท่าน (มาตรา 24 (3))
15.

เก็บ/ใช้ ข้อมูลลายเซ็นของแพทย์ เพื่อตรวจสอบความถูกต้องของลายเซ็นสำหรับการทำงานภายในโรงพยาบาล, นำลายเซ็นไปใช้ในรายงาน / application ที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงานทางการแพทย์

ข้อมูลระบุตัวตน
เพื่อปฏิบัติตามสัญญาระหว่างบริษัทฯ กับท่าน (มาตรา 24 (3))
16.

เพื่อวัตถุประสงค์ในการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับเชื้อชาติ, ศาสนา, ประวัติอาชญากรรม, ข้อมูลสุขภาพ สำหรับอ้างอิงในผลการพิจารณาสมัครงาน

เชื้อชาติ
ศาสนา
ประวัติอาชญากรรม
ข้อมูลสุขภาพ
เมื่อได้รับความยินยอมจากท่าน (มาตรา 26)
17.

แสดงข้อมูลของแพทย์ใน web, mobile application เพื่อการปฏิบัติงานทางการแพทย์

ข้อมูลระบุตัวตน
เพื่อปฏิบัติตามสัญญาระหว่างบริษัทฯ กับท่าน (มาตรา 24 (3))

บริษัทฯ จะไม่ใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปเพื่อวัตถุประสงค์อื่นนอกเหนือจากที่ระบุไปข้างต้น ยกเว้นในกรณีมีความจำเป็นที่พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 อนุญาตให้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลได้ เช่น เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมาย เพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล เป็นต้น

5. การเปิดเผยหรือแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคล

1. บริษัทฯ อาจเปิดเผยหรือแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้กับกลุ่มบริษัทสมิติเวช และกลุ่มบริษัทกรุงเทพดุสิตเวชการในฐานะที่เป็นหน่วยงานกลางที่ทำหน้าที่บริหารจัดการด้านทรัพยากรบุคคลและการฝึกอบรมให้กับแพทย์ในกลุ่มบริษัทสมิติเวช และกลุ่มบริษัทกรุงเทพดุสิตเวชการ

ในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของกลุ่มบริษัทสมิติเวช และกลุ่มบริษัทกรุงเทพดุสิตเวชการ นั้นมีการกำหนดสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลให้เฉพาะผู้ที่รับผิดชอบเท่านั้นเพื่อลดความเสี่ยงในการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล

2. บริษัทฯ อาจเปิดเผยหรือแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้กับผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ดังต่อไปนี้

  • กลุ่มบริษัทสมิติเวช และกลุ่มบริษัทกรุงเทพดุสิตเวชการ
  • ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่จำเป็นต่อการปฏิบัติงานของบริษัทฯ

บริษัทฯ กำหนดให้ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลข้างต้นต้องรักษาความลับและคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามมาตรฐานที่พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 กำหนด และใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ตามวัตถุประสงค์ที่บริษัทฯ ได้กำหนดหรือมีคำสั่งให้บุคคลภายนอกนั้นดำเนินการ บุคคลภายนอกจะไม่สามารถใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านนอกเหนือจากวัตถุประสงค์ดังกล่าวได้

3. บริษัทฯ อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้หน่วยงานราชการ บุคคล หรือนิติบุคคลใด ๆ เพื่อเป็นการปฏิบัติตามกฎหมาย หรือเพื่อปฏิบัติตามคำสั่งศาล เช่น

  • หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการรับรองมาตรฐานสถานพยาบาล
  • สำนักสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะ กรมสนับสนุนการบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณะสุข

4. บริษัทฯ อาจเก็บข้อมูลส่วนบุคคลไว้ในระบบประมวลผลแบบคลาวด์ (Cloud Computing) โดยใช้บริการจากบุคคลที่สามไม่ว่าตั้งอยู่ในประเทศไทยหรือต่างประเทศ โดยบริษัทฯ ได้เข้าทำสัญญากับบุคคลดังกล่าวด้วยความระมัดระวังและพิจารณาถึงระบบรักษาความปลอดภัยในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลที่ผู้ให้บริการระบบ Cloud Computing นั้นให้กับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

6. ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล

1. บริษัทฯ ใช้มาตรฐานระยะเวลาการเก็บเวชระเบียนตามพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. 2541 และ ฉบับแก้ไขล่าสุด โดยบริษัทฯ จะเก็บเวชระเบียนข้อมูลส่วนบุคคลใดๆ ของท่านไว้ในระบบของสถานพยาบาลเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 5 ปี นับแต่วันที่บริษัทได้จัดทำ แต่เพื่อประโยชน์ในการรักษาพยาบาลจะเก็บไว้จนกว่าท่านไม่ได้ติดต่อทางบริษัทเกินกว่า 10 ปีนับจากวันที่มารับการรับการรักษาพยาบาลครั้งสุดท้าย เมื่อครบกำหนด 10 ปีดังกล่าวแล้วจะทำลายทิ้งทั้งเวชระเบียนฉบับจริง สำเนา และเวชระเบียนรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์

2. ในกรณีที่บริษัทฯ ต้องปฏิบัติตามกฎหมายหรือข้อบังคับของสภาวิชาชีพอื่น ๆ ปฏิบัติตามคำสั่งศาล หรือต้องก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมายเพื่อเข้ากระบวนการระงับข้อพิพาทใดๆ บริษัทฯ อาจจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลได้ตามระยะเวลาของอายุความตามกฎหมายหรือข้อบังคับดังกล่าวกำหนด หรือจนกว่าข้อพิพาทนั้นจะถึงที่สุดแล้วแต่กรณี

7. มาตรการในการเก็บรักษาและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

1. บริษัทฯ จะจัดการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลด้วยมาตรการไม่น้อยกว่าระดับที่กฎหมายกำหนด และด้วยระบบที่เหมาะสม เพื่อป้องกันและรักษาความปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคลนั้น เช่น ใช้โปรโตคอลความปลอดภัย (Secure Sockets Layer: SSL) ปกป้องด้วยไฟร์วอลล์ รหัสผ่าน และมาตรการทางเทคนิคอื่นๆ สำหรับการเข้ารหัสข้อมูลผ่านทางอินเตอร์เน็ต และจัดเก็บในสถานที่ที่มีระบบป้องกันการเข้าถึงที่จำกัดบุคคลที่สามารถเข้าถึงได้สำหรับข้อมูลส่วนบุคคลที่อยู่ในรูปแบบเอกสาร

2. บริษัทฯ จำกัดการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลที่อาจจะเข้าถึงได้โดยพนักงาน ตัวแทน คู่ค้า หรือบุคคลภายนอก การเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลภายนอกจะสามารถทำได้ตามเท่าที่กำหนดไว้หรือตามคำสั่ง ซึ่งบุคคลภายนอกจะต้องมีหน้าที่ในการรักษาความลับและคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

3. บริษัทฯ จัดให้มีวิธีการทางเทคโนโลยีเพื่อป้องกันไม่ให้มีการเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่ไม่ได้รับอนุญาต

4. บริษัทฯ มีระบบตรวจสอบเพื่อจัดการทำลายข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่มีความจำเป็นในการดำเนินการของบริษัทฯ

5. ในกรณีที่เป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่อ่อนไหวบริษัทฯ จะจัดให้มีมาตรการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลเอกสารและข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ในด้านการเข้าถึงและควบคุมการใช้งาน มีระบบการใช้งานและระบบสำรองพร้อมทั้งแผนสำหรับกรณีฉุกเฉิน และมีการตรวจสอบประเมินความเสี่ยงของระบบอย่างสม่ำเสมอ

8. การโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ

1. บริษัทฯ อาจโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปต่างประเทศเพื่อดำเนินการตามวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งกับท่านไว้ และได้รับการยินยอมจากท่านแล้ว โดยบริษัทฯ จะแจ้งให้ท่านทราบถึงมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่อาจไม่เพียงพอของประเทศปลายทาง

2. บริษัทฯ สามารถโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปได้โดยไม่ต้องขอความยินยอมจากท่านในกรณีที่การโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปต่างประเทศนั้นเป็นไปเพื่อปฏิบัติตามสัญญาซึ่งท่านเป็นคู่สัญญา หรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนเข้าทำสัญญานั้น หรือเป็นไปตามข้อกำหนดในพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562

9. สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

ในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิร้องขอให้บริษัทฯ ดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามขอบเขตที่กฎหมายอนุญาตให้กระทำได้ ดังนี้

1. สิทธิในการเพิกถอนความยินยอม (right to withdraw consent): ท่านมีสิทธิในการเพิกถอนความ ยินยอมในการประมวลผลข้อมูลสวนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมกับบริษัทฯ ได้ตลอดระยะเวลาที่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอยู่กับบริษัทฯ

2. สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล (right of access): ท่านมีสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของ ท่านและขอให้บริษัทฯ ทำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว รวมถึงขอให้บริษัทฯ เปิดเผยการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านไม่ได้ให้ความยินยอมต่อบริษัทฯ ให้แก่ท่านได้

3. สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง (right to rectification): ท่านมีสิทธิในการขอให้บริษัทฯ แก้ไขข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง หรือ เพิ่มเติมข้อมูลที่ไม่สมบูรณ์

4. สิทธิในการลบข้อมูลส่วนบุคคล (right to erasure): ท่านมีสิทธิในการขอให้บริษัทฯ ทำการลบข้อมูลของ ท่านด้วยเหตุบางประการได้

5. สิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล (right to restriction of processing): ท่านมีสิทธิในการให้บริษัทฯ ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านด้วยเหตุบางประการได้

6. สิทธิในการให้โอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล (right to data portability): ท่านมีสิทธิในการโอนย้าย ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ท่านให้ไว้กับบริษัทฯ ไปยังผู้ควบคุมข้อมูลรายอื่น หรือตัวท่านเองด้วยเหตุบาง ประการได้

7. สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (right to object): ท่านมีสิทธิในการคัดค้านการ ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านด้วยเหตุบางประการได้

ท่านสามารถติดต่อมาที่ DPOOffice.svnh@samitivej.co.th เพื่อดำเนินการยื่นคำร้องขอตามสิทธิข้างต้นได้

10. การเปลี่ยนแปลงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทฯ อาจทบทวนและเปลี่ยนแปลงนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในอนาคตเพื่อพัฒนาให้เกิดการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ดีขึ้น โดยบริษัทฯ จะแจ้งให้ท่านทราบทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายดังกล่าว

11. ช่องทางการติดต่อ

ท่านสามารถติดต่อผู้ควบคุมข้อมูล สอบถามหรือใช้สิทธิใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคล ได้ที่
เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัท สมิติเวช จำกัด (มหาชน)
เลขที่ xxx
เบอร์โทรศัพท์ 02-022-2222
อีเมล DPOOffice.svnh@samitivej.co.th